Enjoy the Nature in Her Green at Shiretoko

Shiretoko (ชิเรโตโกะ) เป็นชื่อของคาบสมุทรทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือสุดของเกาะฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น ที่ยื่นออกไปสู่ทะเล Okhotsk (โอค็อตสค์) มหาสมุทรแปซิฟิค ณ ปลายคาบสมุทรแห่งนี้เป็นที่ตั้งของอุทยานแห่งชาติ Shiretoko ซึ่งถือเป็นอุทยานแห่งชาติที่มีความน่าสนใจและอยู่ห่างไกลมากที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศญี่ปุ่น เนื่องจากที่นี่ไม่ได้มีถนนให้เข้าถึงได้ทุกจุด ต้องอาศัยการเดินเท้าชมความงามหรือล่องเรืออ้อมรอบๆเท่านั้น… Read More Enjoy the Nature in Her Green at Shiretoko

Cherry Blossom in Hirosaki: A Must “Hanami”

แม้คนญี่ปุ่นด้วยกันเองยังมีคำกล่าวกันว่า “ต้องมาชมซากุระบานที่ Hirosaki ให้ได้สักครั้งหนึ่งในชีวิต!” มาดูกันสิว่าซากุระบานที่นี่มีความพิเศษกว่าที่อื่นอย่างไร ทำไมชาวญี่ปุ่นถึงเชื่อกันว่าต้องมาชมให้ได้สักครั้งในชีวิต?… Read More Cherry Blossom in Hirosaki: A Must “Hanami”

Hokkaido Summer

     พื้นที่ใจกลางเกาะอันกว้างใหญ่ของฮอกไกโด เกาะขนาดใหญ่ที่สุดทางเหนือของญี่ปุ่นนั้น มีลักษณะเป็นท้องทุ่งและที่ราบสูงอันกว้างใหญ่ภายใต้เงาร่มของแนวเทือกเขาไดเซ็ทซึ โดยมีเมืองทั้งใหญ่และเล็กรายล้อมอยู่รอบๆแนวเทือกเขา ชาวบ้านมีอาชีพทำการเกษตรเป็นหลัก ดังนั้น เมื่อถึงฤดูใบไม้ผลิต่อเนื่องถึงฤดูร้อน ในช่วงที่หิมะที่ปกคลุมแทบทั้งเกาะละลายหายไปเกือบหมด ทุ่งอันกว้างใหญ่ที่มีพรรณพืชต่างๆมากมาย ก็ร่วมใจพากันผลิดอกออกผล ภาพของทุ่งดอกไม้ต่างๆจึงหมุนเวียนผลัดเปลี่ยนกันให้ได้ชมตลอดช่วงฤดูกาล แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ดอกไม้ที่ขึ้นชื่อที่สุดอันเป็นเหตุผลดึงดูดให้นักท่องเที่ยวจำนวนมากมายมาเยี่ยมเยือนเกาะฮอกไกโดตอนกลางแห่งนี้ คงหนีไม่พ้นทุ่งดอกลาเวนเดอร์อันกว้างใหญ่ ที่ชาวฮอกไกโดเจ้าของพื้นที่ได้พัฒนาพื้นที่เกษตรให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อ พ่วงท้ายมาด้วยผลิตภัณฑ์ต่างๆมากมายที่ผลิตขึ้นจากพืชผลทางการเกษตรเหล่านี้ ฟุราโนะ (Furano) เมืองที่ตั้งห่างไปทางทิศตะวันออกของซัปโปโรประมาณ 100 กว่ากิโลเมตร เป็นแหล่งทุ่งดอกลาเวนเดอร์อันลือชื่อ หากเดินทางมาถึงบริเวณนี้ในช่วงปลายเดือนมิถุนายน ตลอดจนถึงกลางเดือนสิงหาคม ซึ่งถือเป็นช่วงหน้าร้อนที่มีอากาศเย็นสบายของพื้นที่ทางตอนเหนือ ก็จะได้สัมผัสกับกลิ่นหอมและสีสันของดอกลาเวนเดอร์กันอย่างเต็มที่ ว่ากันว่าต้นลาเวนเดอร์นี้เดิมเป็นพืชดอกล้มลุกที่พบได้อยู่ตามทุ่งหญ้าตามป่าเขา ต่อมาได้มีบริษัทผลิตน้ำมันหอมจากดอกไม้ได้มาทดลองปลูกต้นลาเวนเดอร์ในบริเวณนี้เป็นครั้งแรกเมื่อเกือบร้อยปีก่อนและได้ผลดี เกษตรกรในแถบนี้ได้ทำการปลูกลาเวนเดอร์กันอย่างแพร่หลายตามบริเวณต่างๆที่เหมาะสม เพื่อป้อนให้กับโรงงานผลิตน้ำมันหอมสำหรับใช้ในอุตสาหกรรมผลิตเรื่องสำอางค์ที่ตั้งขึ้นในบริเวณใกล้เคียง อย่างไรก็ดีเมื่อวิทยาศาสตร์เจริญก้าวหน้าและโลกมีการพัฒนามากขึ้น การผลิตกลิ่นสังเคราะห์และการนำเข้าที่ง่ายดาย ทำให้ราคาน้ำมันหอมจากลาเวนเดอร์ของแท้นี้ราคาตกต่ำลงและโรงงานต้องเลิกกิจการไป พาเอาเกษตรกรย่ำแย่ตามไปด้วย จนต้องหันไปปลูกพืชชนิดอื่นๆกันเกือบหมด อย่างไรก็ดี ยังเหลือเกษตรกรที่ยังคงทนปลูกต้นลาเวนเดอร์นี้อยู่ไม่กี่เจ้า และแล้วเหตุการณ์ก็เปลี่ยนไป ในปี ค.ศ. 1975 ภาพของทุ่งลาเวนเดอร์สีม่วงสดอันสวยงามจากฟาร์มแห่งหนึ่งได้ถูกถ่ายทอดลงบนปฏิทินของการรถไฟภูมิภาคของญี่ปุ่น ทำให้มีผู้คนสนใจอยากมาเที่ยวชมทุ่งลาเวนเดอร์แห่งนั้น และนับวันจะมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ เป็นเหตุให้การปลูกลาเวนเดอร์กลับมาได้รับความนิยมอีกครั้งในฐานะแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของฮอกไกโด จากที่เป็นพืชที่ปลูกเพื่อการเกษตรฯ ป้อนโรงงาน กลับกลายมาเป็นปลูกเพื่อการท่องเที่ยว จนกลายเป็นสัญลักษณ์ของดินแดนแถบนี้ตลอดมาจนถึงปัจจุบัน ฉันได้แวะเที่ยวชมฟาร์มอันลือชื่อที่ใครๆก็พลาดไม่ได้ หากมาเยือนถึงดินแดนแถบนี้แล้ว นั่นคือโทมิตะฟาร์ม ว่ากันว่าภาพในปฏิทินที่ทำให้ทุ่งลาเวนเดอร์แห่งฮอกไกโดโด่งดังเป็นครั้งแรก ก็ถูกบันทึกไว้ที่ฟาร์มแห่งนี้… Read More Hokkaido Summer

Sapporo/Otaru

เช่นเดิม…บทความที่เขียนลงนิตยสารฉบับหนึ่งไว้จ๊ะ…ความจริงจะเขียนรวมฮาโกดาเตะเข้าไปด้วย แต่เนื้อที่ไม่พอ (จำกัดหน้าในนิตยสาร) เลยตัดออก แต่ในรูปเอาลงไว้ให้ดูเล่นด้วยจ๊ะ…   ในยุคที่ใครๆต่างก็อยากไปเที่ยวญี่ปุ่น แถมไปแล้วก็อยากไปซ้ำแบบนี้ ถ้าฉันไม่อินเทรนด์เอาประเทศนี้มาแนะนำกันบ้าง ก็คงจะตกยุคไปไม่น้อย อย่ากระนั้นเลย เราไปเที่ยวญี่ปุ่นกันบ้างดีกว่า จะไปทั้งที จะไปแต่เส้นทางยอดฮิตโตเกียว ภูเขาไฟฟูจี หรือโอซาก้า ก็กระไรอยู่ ฉันขอพาขึ้นไปเกาะเหนือสุดของประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจแห่งนี้กันเลย…เกาะฮอกไกโด เป็นเกาะหนึ่งในสี่เกาะหลักของประเทศญี่ปุ่น มีพื้นที่ใหญ่เป็นอันดับสองรองจากเกาะฮอนชู (ที่ตั้งเมืองหลวงทั้งเก่าและใหม่อย่างเกียวโต โตเกียว) และกินพื้นที่มากกว่าหนึ่งในห้าของพื้นที่ทั้งหมดของประเทศ ทั้งๆที่มีประชากรอาศัยอยู่น้อยนิดเพียงแค่ประมาณ 5-6% ของประชากรทั้งญี่ปุ่นเท่านั้น พื้นที่กว้างใหญ่แต่ไร้ความหนาแน่นของผู้คนแบบนี้ แน่นอนว่าต้องมีธรรมชาติที่โดดเด่นเป็นแน่แท้ ทั้งภูเขาไฟ ท้องทุ่งอันกว้างใหญ่ เทือกเขา ทะเลสาป บ่อน้ำแร่ฯลฯ ต่างประกอบขึ้นมาเกาะสวยงามแห่งนี้ แต่ฮอกไกโดคงไม่เป็นที่รู้จักสำหรับคนภายนอก ห่างขาดช่วงหนึ่งของประวัติศาสตร์เมื่อร้อยกว่าปีก่อนไป ในครั้งนี้ ฉันจึงขอแนะนำเมืองไม่ใหญ่ไม่โตแต่เป็นที่รู้จักมากที่สุดของฮอกไกโด ที่มีร่องรอยกลิ่นไอของอารยธรรมยุโรปในสมัยปฏิรูปเมจิที่ทำให้เกาะนี้เป็นที่รู้จักของคนต่างชาติมากขึ้น เมื่อญี่ปุ่นเปิดประเทศและรับเอาวัฒนธรรมตะวันตกเข้ามาหลังจากปิดตัวเองอยู่ในเกาะมาเป็นศตวรรษ ยุคสมัยเมจิของญี่ปุ่น (ค.ศ. 1868-1912) ถ้าเทียบกันง่ายๆ ก็คงคล้ายๆกับสมัยรัชกาลที่ 5 ของประเทศไทย (ซึ่งก็อยู่ในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน) เป็นช่วงที่ญี่ปุ่นเปิดกว้างรับเอาวัฒนธรรมต่างชาติเข้ามาค่อนข้างมาก ศิลปะวิทยาการต่างๆ รวมไปถึงสถาปัตยกรรม และการสร้างบ้านแปลงเมือง จึงมีอิทธิพลของอารยธรรมตะวันตกเข้ามามีบทบาทอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แน่นอนว่าเกาะฮอกไกโดก็ไม่เป็นที่ยกเว้น จากเกาะเงียบสงบที่มีแต่ป่าเขา… Read More Sapporo/Otaru

Mt. Fuji

เรื่องนี้ เขียนไว้เมื่อปีที่แล้ว เมื่อถูกร้องขอกระทันหัน เอาไปอ่านกันสำหรับเดือนนี้จ้า ฟูจิซัง…เธอผู้เป็นนิรันดร์ มีเพื่อนชาวญี่ปุ่นคนหนึ่ง บอกให้ฉันฟังว่า คนญี่ปุ่นเปรียบภูเขาไฟฟูจิดั่งเช่นหญิงสาว ผู้ซึ่งมีอารมณ์ปรวนแปรตลอดเวลาเอาแน่เอานอนไม่ได้ ยามเมื่อเธออารมณ์ดี เธอก็จะอวดโฉมโชว์ความงามอย่างเต็มที่ แต่ภายในไม่กี่นาที เธอก็อาจอารมณ์ขุ่นหมอง ซ่อนความงามของเธอเอาไว้เบื้องหลังเมฆหมอกได้ในทันใด และถึงแม้เธอจะไม่ได้โมโหโกรธาใครๆ มาเป็นเวลาเกือบๆ สามร้อยปีแล้ว แต่ก็ใช่ว่า เธอคนนี้จะนิ่งสงบอยู่ตลอดไป ไม่มีใครทราบแน่ชัดว่า เธอผู้งามสง่า สัญลักษณ์ของดินแดนอาทิตย์อุทัยตนนี้ จะตื่นจากความสงบขึ้นมาแผลงฤทธิ์อีกเมื่อไร… นับย้อนเวลากลับไปเมื่อหลายแสนปีก่อน เธอผู้นี้ยังไม่ได้มีรูปโฉมปรากฎอย่างที่พบเห็นในปัจจุบัน แต่มีภูเขาไฟสองลูกที่ฉันอุปมาว่าเป็นพ่อและแม่ของเธอต่างหาก ที่ตั้งตระหง่านอยู่ในดินแดนแถบนี้ ภูเขาไฟทั้งสองลูกต่างก็ปะทุระเบิดขึ้นหลายต่อหลายครั้งตามวันเวลาที่ผันผ่าน จนกลายร่างถือกำเนิดขึ้นมาเป็นนางสาวฟูจิคนเก่า ที่มีความสูงเพียง 2,700 เมตร เมื่อหลายหมื่นปีก่อน เธอคนเก่ายังคงมีฤทธิ์พิโรธโกรธาเป็นครั้งคราว จนเมื่อประมาณหมื่นกว่าปีก่อนนี่เองที่เธอได้เปลี่ยนโฉมกลายร่างมาเป็นนางสาวฟูจิคนใหม่ ที่มีความสูงสง่าถึง 3,776 เมตร เส้นรอบวงที่ฐานยาว 125 กิโลเมตร ที่ได้รูปทรงงดงามเป็นกรวยคว่ำยอดตัดสมส่วน มองเห็นได้ตั้งแต่ฐานยันยอดโดยไม่มีผู้ใด (ภูเขาใดๆ) มาบดบังรัศมีความสง่างาม ดั่งรูปโฉมที่เห็นกันอยู่ในปัจจุบัน ไม่มีใครทราบแน่นอนว่า เธอ “ภูเขาฟูจิ” (富士山)ได้รับชื่อของเธอมาอย่างไร โดยตัวชื่อของเธอเองแปลว่า “ผู้มั่งคั่ง อุดมสมบูรณ์” แต่จากคำกล่าวของนักวิชาการหลายๆท่าน บ้างก็ว่าชื่อเธอมาจากคำพ้องเสียงว่า不二ที่หมายความว่า… Read More Mt. Fuji