ประเทศจอร์เจียเป็นประเทศกำลังพัฒนาที่กำลังฮิตติดอันดับในโลกโซเชียลมีเดียเมืองไทย ใครๆก็อยากไปเที่ยวจอร์เจีย เลยขอเอาประสบการณ์การเช่ารถขับเที่ยวเองมาฝาก เผื่อเป็นประโยชน์สำหรับใครต่อใครที่คิดจะไปเที่ยวเอง อนึ่ง ประสบการณ์ที่จะบอกต่อนี้เป็นการขับรถในช่วงเดือนตุลาคม (2019) ที่ยังไม่มีหิมะตก ถนนหลายๆเส้นกำลังอยู่ในระหว่างการปรับปรุงเพื่อต้อนรับแรงส่งการท่องเที่ยวที่ฉันเชื่อว่ากำลังจะมาแรงในระดับนานาชาติ ทั้งจากหนัง Fast and Furious 9 ที่มีการถ่ายทำบางส่วนในเมืองหลวง Tbilisi (มีกำหนดฉายในปีหน้า) และจากการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันสกีและสโนว์บอร์ดโลกในปี 2023 และน่าจะมีอะไรอื่นๆตามมาอีกมากมาย
เส้นทางที่ขับ Airport-Gori-Kutaisi (via mountain road to Chiatura)-Okatse and vicinity-Borjomi-Akhalsikhe-Vardzia Cave-Gudauri-Kazbegi-Russia/Goergia border-Juta Village-Mtskheta-Tbilisi
การเช่ารถ
ฉันใช้วิธีติดต่อเช่ารถออนไลน์จากบริษัทเช่ารถของท้องถิ่น (ไม่ใช่บริษัทอินเตอร์ใหญ่ๆที่มีบู้ทอยู่ที่สนามบิน) เนื่องจากง่ายต่อการจอง รวมทุกอย่างในราคาที่บอกไว้ไม่ต้องเพิ่มนู่นเพิ่มนี่ให้ยุ่งยาก ตอนจองออนไลน์เขาให้ส่งพาสปอร์ตกับใบขับขี่ไปให้ล่วงหน้า (ฉันส่งใบขับขี่ของไทยรุ่นใหม่ที่มีภาษาอังกฤษไป เขาก็ไม่ได้ขอดูใบขับขี่นานาชาติแต่อย่างใด) จ่ายเงินที่สนามบินตอนรับรถ ต่อเมื่อสอบถามเรื่อง GPS บนรถ เขาบอกว่าให้ใช้ Google Map เอาเพราะข้อมูลอัพเดทกว่า ซึ่งก็ไม่มีปัญหา ฉันจัดการเตรียมสายชาร์จโทรศัพท์และที่ตั้งโทรศัพท์บนรถเพื่อความสะดวกในการใช้งาน Google Map บอกทาง รวมถึงดาวน์โหลดแผนที่ในแอพ Maps Me เอาไว้ เผื่อเหนียวหากที่ไหนไม่มีสัญญาณโทรศัพท์สำหรับใช้กูเกิ้ลแม็พ)
การรับรถ
ช่วงที่ติดต่อออนไลน์ บอกเขาว่าจะรับรถที่สนามบิน (จ่ายเพิ่มเล็กน้อย) และคืนรถที่ออฟฟิสในเมือง (ที่จะกล่าวถึงภายหลัง) โดยใช้ Whatsapp เป็นหลักในการติดต่อสื่อสาร ดังนั้น ถ้ามี Whatsapp อยู่แล้ว ก็ใส่เบอร์เขาเอาไว้ ไปถึงสนามบิน ซื้อซิมการ์ดเปลี่ยน (ฉันซื้อของ Beeline แบบ 10GB ราคา 15 GEL (ประมาณ 150 บาท) ใช้ Data อย่างเดียว ไม่รวมค่าโทรเข้าโทรออก ซื้อ data เยอะๆเผื่อสำหรับการใช้งาน Google Map ตลอดทริป) แล้วก็ใช้แอพโทรติดต่อกับคนที่เอารถมาส่ง เดินไปเอารถที่ที่จอดรถ เขาส่งสัญญาให้ดู/เซ็นทางออนไลน์ จ่ายเงินค่าเช่ารถ (รูดบัตรบวกอีก 5%) รับกุญแจ จบ ไม่มีการเช็คใบขับขี่อะไรแต่อย่างใด บอกแต่ว่าประกันรวมทุกอย่างแต่ไม่รวมค่ายางรถ กรณียางแตกต้องเปลี่ยนใหม่ และจะมีค่าล้างรถอีก 20 GEL ตอนคืนรถ หากกลับมาในสภาพที่รถสกปรก
ข้อสังเกต/ข้อควรระวังในการขับรถ “ต่างจังหวัด” ในประเทศจอร์เจีย
- พวงมาลัยรถที่นี่เป็นพวงมาลัยซ้าย ขับรถเลนทางขวา (ตรงข้ามกับของไทย)
- นอกจากเส้นทางหลวงสายหลักระหว่างเมืองสำคัญๆ (จำกัดความเร็วที่ 110 กม/ชม) แล้ว ถนนส่วนใหญ่จะมีแค่สองเลน ทางคดโค้งขึ้นลงเขา ถนนไม่ค่อยดีหลุมบ่อเยอะ ถนนขึ้นลงเขาลาดชันและโค้งซ้ายขวาหลายๆที่มีจุดบอดค่อนข้างมาก ควรขับด้วยความระมัดระวัง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง…(ดูข้อต่อไป)
- คนจอร์เจียขับรถไม่ค่อยมีระเบียบ ขับค่อนข้างเร็ว (โดยเฉพาะพวกรถเบนซ์!) และแซงกันแบบไม่เกรงใจและไม่ค่อยหลบ (ถนนสองเลน เวลาแซงก็จะต้องขึ้นมาที่เลนของฝั่งตรงข้าม) โปรดระวังเป็นอย่างยิ่ง
- ถนนมีป้ายระวังวัวค่อนข้างถี่ ซึ่งก็ต้องระวังอยู่ตลอดเวลายิ่งกว่าเฉพาะตอนเห็นป้าย เพราะเขาชอบปล่อยวัวมาเล็มหญ้าริมถนน และพวกมันก็ชอบออกมายืนจังก้า เดินไปมาอยู่ตามถนน นอกจากวัวแล้ว ก็ต้องระวัง หมู (ตัวใหญ่ทีเดียว) ม้า ลา แพะ แกะ สุนัข และคน (ที่เดิน จอดรถ หยุดคุยกลางถนน แบบไม่กลัวรถที่วิ่งมา คือเขาไม่ค่อยหลบนั่นเอง)
- ที่นี่มีกล้องจับความเร็วตามถนนหลวงเป็นระยะๆ และมีตำรวจให้เห็นเป็นครั้งคราว เผอิญไม่ได้โดนจับเลยไม่รู้ว่าเป็นอย่างไร แต่ตามข้อมูลที่หามา ตำรวจที่นี่เชื่อถือได้ ผิดเป็นผิด ไม่เล่นลิ้นถ่วงเวลาแบบประเทศกำลังพัฒนาหลายๆประเทศ
- การเติมน้ำมันเหมือนเมืองไทย คือมีคนมาเติมให้ ราคาลิตรละประมาณ 2.60-2.80 GEL (ต่างกันเล็กน้อยในแต่ละปั๊มและสถานที่) ส่วนใหญ่เขาจะถามก่อนว่าจ่ายเงินสดหรือใช้บัตร (อันนี้บอกไว้เพราะบางทีคนที่ปั๊มก็พูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้ เขาจะโบกเงินไปมา พูดอะไรบางอย่าง โปรดเข้าใจว่าเขาถามว่าจะจ่ายเงินสดหรือจ่ายบัตร เพราะเขาต้องไปกดอะไรที่เครื่องก่อน)
- เนื่องจากเป็นประเทศที่ระเบียบการจราจรหลวมๆยิ่งกว่าบ้านเรา ข้อดีคือเราไม่ต้องเกร็งมาก ไม่ต้องปฏิบัติตามกฎตลอดเวลาเหมือนขับรถในยุโรป จะเลี้ยว จะจอด จะหยุดตรงไหนก็พอจะทำได้ ข้อเสียคือ เขาก็ทำเหมือนกัน จึงต้องระวังเพราะบางทีเขาก็จอดรถกันดื้อๆ หรือเวลาเข้าที่จอดรถตามสถานที่ท่องเที่ยว ก็จะจอดแบบไม่มีระเบียบ ไปๆมาๆ รถโดนบล็อคออกจากที่จอดรถไม่ได้ก็มี
- ถนนในเมืองบางแห่งจะมีทาง One way หรือทางตันเพราะการก่อสร้าง ซึ่งมักจะไม่อัพเดทใน Google Map ในกรณีนี้ก็ควรใช้วิจารณญาณส่วนตัวดูภาพรวมของถนนและหาทางไปเองให้ได้ ฮ่า ฮ่า
หมายเหตุ เฉพาะเส้นทาง
- ทางไป Juta Village ไม่ต้องใช้ 4WD ก็ไปได้ ทางช่วงแรกราดยางใหม่ๆ ทางก่อนถึงหมู่บ้านถนนดิน ขึ้นเขา เลาะริมหน้าผา แต่ทางดีไม่ต้องออฟโร้ดมาก
- เส้นทางขึ้นลงเขาไป Kazbegi (Stepantsminda) ช่วงที่ผ่าน Gudauri (ซึ่งจะเป็นที่จัดงานแข่งสกีนานาชาติ) มีการก่อสร้างตึกใหม่ๆ และรถบรรทุกเยอะมาก โปรดระวังเวลาจะแซงที่ทางแคบและคดโค้งและเผื่อเวลาไว้ด้วย
- เส้นทางไป Vardzia Cave เป็นเส้นทางแคบและคดโค้งที่สวยงามมากเช่นเดียวกับอีกหลายๆเส้นทาง ดีที่รถน้อย
- ถนนในเมือง Tbilisi วุ่นวายและสับสน คนไม่ค่อยขับตามเส้นแบ่งถนน Google Map อัพเดทไม่ทันเรื่องการปิดถนน ก่อสร้าง เดินรถทางเดียวและอื่นๆ (นี่แค่ขับไปเอาของเข้าที่พักและคืนรถนะเนี่ย) แนะนำว่าไม่ควรขับเป็นอย่างยิ่ง เดินเที่ยวเอาสนุกกว่า ค่าแท็กซี่ก็ไม่แพงถ้าไม่โดนหลอก…
การคืนรถ
หากเป็นบริษัทใหญ่ๆ (เท่าที่เสริชมา) ถ้าเราต้องการคืนในเมือง เขาจะให้คืนตามโรงแรมใหญ่ๆที่มีเคาเตอร์อยู่ แต่ที่จองไว้ เขาให้คืนที่ออฟฟิส ซึ่งอยู่ชั้นสองและหน้าตึกไม่มีที่จอดรถ ก็งงๆกันไป จอดข้างถนน คุยทาง Whatsapp เขาเดินมาเคาะกระจก ชี้ให้เลี้ยวไปจอดในซอย เดินวนดูรอบรถ เก็บเงิน 20 GEL ค่าล้างรถ (ซึ่งสกปรกจริง ฮ่า ฮ่า) แล้วเขาก็ขับออกไป ไม่ต้องทำไรมาก ฉันก็หาทางเดินกลับที่พักเอา…จบ
ขอให้มีความสุขกับการขับรถ “Slow and Serene” ใน Georgia ก่อนการมาถึงของเหล่าสาวก “Fast and Furious” ในปีหน้านะจ๊ะ…
วันไหนว่าง จะกระโดดขึ้นเครื่อง ไปขับรถเล่นบ้าง
บรรยากาศดี น่าไปมากครับ !!
เช่ารถกับบริษัทอะไรครับ ถามได้ไหมครับ
Tbilisi Auto Rent ค่ะ