Challenging the Altitude in Ladakh (2)
หลังจากชิมลางกับความสูงห้าพันเมตรต้นๆมาแล้ว ฉันกลับมาตั้งต้นที่เมืองเลห์ เมืองหลวงของลาดักห์อีกครั้ง ถึงตอนนี้ความสูง 3,500 เมตรของหนึ่งในดินแดนที่สูงที่สุดและแห้งแล้งที่สุดแห่งนี้ ไม่สร้างปัญหาให้ฉันเหมือนวันแรกๆที่มาถึงอีกต่อไป การเดินช้อปปิ้งหาซื้อของพื้นเมือง และของที่ระลึกต่างๆที่นี่ จึงเป็นสิ่งที่น่ารื่นรมย์กว่าช่วงวันสองวันแรก เมืองเลห์ถือเป็นศูนย์กลางของแคว้นที่จะเดินทางต่อไปยังเส้นทางอื่น เมื่อเปิดแผนที่กางออกดูแล้ว ฉันเห็นว่ายังมีอีกสองเส้นทางหลักที่ฉันยังไม่ได้ไปเยี่ยมเยือน หนึ่งคือถนนสายตะวันตกที่ต่อเชื่อมไปยังแคว้นแคชเมียร์ และสองคือเส้นทางสู่ทิศเหนือของลาดักห์ไปสู่หุบเขานูบร้าที่เชื่อมต่อไปยังจีน ฉันเลือกเดินทางสู่เส้นทางสายทิศตะวันตกก่อน แม้ว่าทางสายนี้จะเป็นเส้นทางดั้งเดิมที่เชื่อมต่อไปยังแคชเมียร์และดินแดนต่างๆของเอเชียกลางได้ แต่ฉันเลือกที่จะเดินทางไปไกลเพียงพอที่จะไปกลับได้เพียงหนึ่งวันเท่านั้น เนื่องจากต้องการใช้เวลาในลาดักห์ให้เต็มที่ ถนนราดยางค่อนข้างดีสายนี้ ลัดเลาะไปตามแม่น้ำสินธุ ที่ถือกำเนิดมาจากเทือกเขาหิมะ ภูมิประเทศระหว่างเส้นทางงดงามแปลกตา จนต้องขอหยุดถ่ายรูปเป็นพักๆ จนมาถึงจุดชมวิวแม่น้ำสองสายบรรจบกัน โดยแม่น้ำสินธุ (Indus) สายหลักมีสีใสกว่า ในขณะที่แม่น้ำซันสการ์ (Zanskar) มีสีโคลนขุ่นสีน้ำตาล ถือเป็นจุดของการบรรจบกันอย่างงดงามโดยมีวิวทิวเขาสลับซับซ้อนเป็นฉากหลัง ก่อนที่จะไหลรวมเป็นหนึ่งเดียวต่อไปเป็นแม่น้ำสินธุ ในบริเวณที่เรียกว่านิมู (Nimu) การเดินทางลดเลี้ยวไปตามถนนยังคงดำเนินต่อไป ไปหยุดแวะพักจริงๆอีกครั้งก็ที่เมือง Alchi ซึ่งห่างจากเลห์มาประมาณ 67 กิโลเมตร อันเป็นที่ตั้งของวัดเก่าแก่แห่งหนึ่งสร้างขึ้นโดยคุรุรินเชนซางโป และดูเหมือนจะวัดแห่งเดียวในลาดักห์ที่ไม่ได้ตั้งอยู่บนเขา การเดินเข้าชมวัดแห่งนี้ จึงไม่ยากลำบากเกินไปนัก แถมยังเดินผ่านหมู่บ้านที่มีต้นไม้และสายน้ำเล็กๆทอดตัว ดูร่มรื่นเป็นอย่างยิ่ง ตัววัดแบ่งเป็นตัวอาคารสามหลัง ประกอบกับสถูปเจดีย์เรียงราย ดูเก่าขรึมและขลังเพราะสร้างมาเกือบพันปีที่แล้ว มีภาพเขียนสีที่เก่าแก่และงดงามมากๆ (ขอย้ำอีกครั้งว่าสวยมาก) ภายใน (แต่ห้ามถ่ายรูป) รวมถึงรูปปั้นและเครื่องไม้แกะสลักเก่าแก่จากแคชเมียร์… Read More Challenging the Altitude in Ladakh (2)
Challenging the Altitude in Ladakh (1)
กล่าวกันว่าลาดักห์ ดินแดนที่ตั้งอยู่ในแคว้นทางเหนือของอินเดีย โอบล้อมด้วยขุนเขาที่มียอดสูงกว่า 7,000 เมตร ระหว่างที่ราบสูงทิเบตและเทือกเขาหิมาลัยทางทิศตะวันตกแห่งนี้ เป็นดินแดนที่มีมนุษย์อาศัยอยู่ที่ “สูงที่สุดและแห้งแล้งที่สุด” แห่งหนึ่งของโลก แต่ดินแดนเดียวกันนี้ก็เป็นชุมทางการค้าที่สำคัญระหว่างอินเดีย จีนและเอเชียกลางมาแต่โบราณ จนได้ชื่อว่าเป็น “ดินแดนแห่งเส้นผ่านทางในที่สูง” อันเป็นความหมายและที่มาของคำว่า “ลาดักห์” จนเมื่อมีปัญหาทางการเมืองทางชายแดนระหว่างจีนกับทิเบต และเส้นทางถูกปิดกั้น เส้นทางการค้าแห่งนี้ก็ซบเซาลง ทิ้งไว้แต่วัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ของพุทธศาสนาแบบทิเบตที่เข้ามามีอิทธิพลในดินแดนแห่งนี้ ที่ได้หล่อหลอมผู้คนและวัฒนธรรมประเพณีอันมีความโดดเด่นเฉพาะตัว ไม่น่าแปลกใจว่าเมื่อเริ่มมีนักท่องเที่ยวเดินทางผ่านเข้ามาในบริเวณนี้เมื่อ 30-40 ปีก่อน จะตั้งฉายาลาดักห์แห่งนี้ว่า “ทิเบตน้อย (Little Tibet)” ฉันเดินทางมาถึงเลห์ (Leh) เมืองที่ตั้งอยู่ที่ความสูง 3,505 เมตรเหนือระดับน้ำทะเลในหุบเขาสินธุ อันเรียกได้ว่าเป็นเมืองหลวงของลาดักห์ในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวในหน้าร้อน ที่อากาศไม่หนาวเหน็บจนเกินไป โดยสายการบินภายในประเทศที่บินตรงจากเมืองหลวงของประเทศอย่างกรุงนิวเดลฮี ที่ช่วยร่นระยะเวลาในการเดินทางไม่ใช่น้อย จากการเดินทางแบบเดิมที่ต้องรอนแรมตีรถขึ้นเหนือมาเรื่อยๆจากเมืองทางด้านใต้อย่างมานาลี ที่ต้องใช้เวลาเป็นวันๆกว่าจะมาถึง หรือเดินทางลัดเลาะมาตามถนนจากทางด้านเมืองศรีนาคาในแคชเมียร์ทางทิศตะวันตก หากแต่การมาถึงที่ระดับความสูงเกินกว่า 3,500 เมตร จากพื้นราบในทันทีทันใดแบบนี้ ก็หลีกเลี่ยงไม่พ้นที่จะต้องระมัดระวังกับอาการที่อาจเกิดขึ้นได้เป็นประจำสำหรับคนที่ไม่คุ้นชิน อันได้แก่ ปวดหัว นอนไม่หลับ กระสับกระส่าย ฯลฯ ที่เรียกกันว่า โรคความสูง (altitude sickness) ซึ่งจะไม่เกิดอาการในทันที และจะแสดงอาการอย่างเด่นชันเมื่อเวลาผ่านไปสักระยะ… Read More Challenging the Altitude in Ladakh (1)
Kashmir, Paradise on Earth
ทั้งแนวเทือกเขายอดหิมะสูงตระหง่าน สับหว่างด้วยหุบเขาเขียวชอุ่มและลำธารน้ำใส กอปรกับดอกไม้นานาพรรณที่ประกอบกันขึ้นมาบนดินแดนแห่งนี้ งดงามแปลกตาสมกับที่องค์จักรพรรด์จาฮานกีร์ เคยตรัสไว้เมื่อได้เดินทางมาถึงที่นี่ในครั้งแรกว่า “หากจะมีสวรรค์บนพื้นพิภพนี้ ก็คือที่นี่ แคชเมียร์”… Read More Kashmir, Paradise on Earth
Finding Bhutan King in the Kingdom of Bhutan (II)
“ที่จริงตำรวจเขาบอกว่าไม่ให้บอกหรอกนะ แต่เห็นพวกเราคลั่งไคล้เหลือเกินตั้งแต่มาถึง… กรุณานั่งเฉยๆ อย่าหยิบกล้องขึ้นมา แล้วก็ห้ามส่งเสียงดัง…กษัตริย์ของเรา (ท่านจิ๊กมี่ เคซาร์) กำลังปั่นจักรยานขึ้นเขาอยู่ข้างหน้า เดี๋ยวรถเราจะต้องขับผ่าน!”…… Read More Finding Bhutan King in the Kingdom of Bhutan (II)
Finding Bhutan King in the Kingdom of Bhutan (I)
If you are a good human being, then the skills and knowledge you acquire will benefit the whole society; otherwise, it’s like giving a weapon to a child. …HM Jigme Khesar Namgay Wangchuk (People’s King of Bhutan)… Read More Finding Bhutan King in the Kingdom of Bhutan (I)
Machu Picchu
ด้วยความขี้เกียจ เอามันลงทั้งอย่างนี้เลย ฮ่า ฮ่า My article on Machu Picchu published in Power magazine (King Power Duty Free member magazine) this issue (June-July 2012).
Inland California: ดินแดนแห่งธรรมชาติอันหลากหลาย
มลรัฐแคลิฟอร์เนียมีพื้นที่กว้างไกลใหญ่โต เรียกว่าใหญ่เป็นอันดับสามในจำนวนรัฐต่างๆของสหรัฐอเมริกากันเลยทีเดียว หรือจะเทียบง่ายๆก็ประมาณ 80% ของพื้นที่ประเทศไทยนั่นล่ะ แน่นอนว่าความหลากหลายทางธรรมชาติย่อมไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรนัก แต่ที่ฉันเห็นว่าน่าสนใจก็คือ ในช่วงระยะเวลาสั้นๆที่ฉันได้ท่องเที่ยวอยู่ในตอนกลางของพื้นที่ในแผ่นดินด้านตะวันออกของรัฐ (ที่ไม่ติดมหาสมุทรแปซิฟิค) แห่งนี้ ฉันกับเจอสภาพภูมิประเทศและภูมิอากาศที่แตกต่างกันราวฟ้ากับดิน นี่แหละที่ทำให้ฉันเห็นว่าดินแดนแห่งนี้ช่างมีธรรมชาติที่หลากหลายเสียเหลือเกิน การเดินทางของฉันเริ่มจากอุทยานแห่งชาติอันเป็นที่รู้จักกันโดยทั่วไปอย่างโยเซมิติ (Yosemite National Park) ซึ่งตั้งอยู่ประมาณกึ่งกลางของรัฐทางด้านทิศตะวันออก ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแนวเทือกเขาเซียร่าเนวาด้า ช่วงที่ฉันไปเยี่ยมเยือนเป็นช่วงต้นเดือนเมษายน ถนนหนทางต่างๆบางแห่งในขุนเขาแห่งนี้ ยังคงมีหิมะปกคลุมไม่สามารถเดินทางเข้าไปได้ บริเวณที่สามารถเยี่ยมชมได้อย่างสวยงามในช่วงนี้คงหนีไม่พ้นบริเวณที่เรียกว่าเป็นหุบเขาโยเซมิติ ฉันเข้าชื่นชมความงามโดยขับรถตามถนนเลียบไปตามลำน้ำเมอร์เซด (Mersed River) ที่ลัดเลาะเข้าไปในหุบเขาขนาบข้างด้วยภูเขาแท่งหินแกรนิตขนาดมหึมา น้ำตกผ้าคลุมหน้าเจ้าสาว Bridalveil Waterfall เป็นจุดแรกที่ฉันแวะเที่ยวชม เมื่อเดินเข้าไปทางเดินสั้นๆ ฉันก็ถูกปะทะด้วยละอองน้ำเย็นยะเยือกที่ปลิวมาตามแรงลมของน้ำตกที่ตกตรงดิ่งลงมาจากหน้าผาสูง ดูเผิ่นๆเหมือนน้ำตกจะเล็ก แต่เพราะภูมิประเทศอันเป็นกำแพงหินแกรนิตรอบข้างต่างหากที่ใหญ่โตเสียจนทำให้น้ำตกดูเล็กไปถนัดใจ ทั้งๆที่มีความสูงถึง 190 เมตร ไม่ไกลกันนักเป็นที่ตั้งตระหง่านของแท่งหินแกรนิตที่ว่ากันว่าใหญ่ที่สุดในโลก El Capital ที่ยอดมีความสูงอยู่ที่ 2,307 เมตร แท่งหินมโหฬารที่มีวิวัฒนาการการแข็งตัวอยู่ใต้ดินเมื่อหลายล้านปีก่อนที่จะดันทะลุพื้นขึ้นมาตั้งเด่นเป็นสง่าแห่งนี้เป็นที่ท้าทายของนักไต่หน้าผาที่ต้องการมาพิชิตที่นี่ให้ได้สักครั้งในชีวิต ลึกเข้าไปในหุบเขาฉันมีโอกาสได้ยลโฉมน้ำตกที่ได้ชื่อว่าสูงเป็นอันดับห้าของโลก อันได้แก่น้ำตกโยเซมิติซึ่งแบ่งเป็นสองชั้น ชั้นบนและชั้นล่างรวมความสูง 739 เมตร ที่มีน้ำไหลแรงผ่านหน้าผาหินแกรนิตลงมาอย่างไม่ปรานีใคร และการจะมองเห็นน้ำตกแห่งนี้เต็มๆได้ คงต้องมองจากที่ไกลๆเท่านั้น หลังจากที่แวะสอบถามข้อมูลจากศูนย์บริการข้อมูลของอุทยานแห่งชาติ และทราบว่าหลายเส้นทางยังคงปิดอยู่ในช่วงเวลาดังกล่าว ฉันเลือกที่จะเดินไปตามทางเดินศึกษาธรรมชาติง่ายๆ… Read More Inland California: ดินแดนแห่งธรรมชาติอันหลากหลาย
Central California’s Coastline: มหัศจรรย์ธรรมชาติริมฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิค
เมื่อกล่าวถึงแคลิฟอร์เนีย มลรัฐทางทิศตะวันตกติดมหาสมุทรแปซิฟิคของสหรัฐอเมริกา คงมีน้อยคนที่จะไม่รู้จัก ยิ่งสำหรับคนไทยด้วยแล้ว เมืองใหญ่อย่างลอสแองเจลิสยังมีคนไทยอาศัยอยู่มากมายจนเรียกกันว่าเป็นจังหวัดหนึ่งของเมืองไทยไปแล้ว มาคราวนี้ ฉันก็ขอตั้งต้นการเที่ยวแคลิฟอร์เนียแห่งนี้จากลอสแองเจลิสนี่แหละ แต่ขอออกตัวก่อนว่า ฉันจะไม่พาไปเที่ยวแหล่งท่องเที่ยวในเมืองที่เป็นที่นิยมและรู้จักกันดี แต่จะพาเลาะชมธรรมชาติอันมหัศจรรย์เลาะริมฝั่งแปซิฟิคกัน แน่นอนว่าเที่ยวตามใจฉันแบบนี้ จำเป็นต้องมีพาหนะส่วนตัว เนื่องจากจะแวะจะหยุดตามใจตัวเอง ไม่สามารถใช้บริการขนส่งสาธารณะได้อย่างสะดวก ดังนั้น ก่อนไปฉันจึงต้องทำใบขับขี่สากลไว้ให้เรียบร้อย และเมื่อเช่ารถจากสนามบินได้แล้ว การเดินทางก็เริ่มต้นในทันที ฉันขับรถไปทางด้านตะวันตกเฉียงเหนือของลอสแองเจลิส อันมีเมืองตากอากาศอยู่ชิดติดทะเลชื่อดังที่เป็นที่รู้จักกันโดยทั่วไป อันเนื่องมาจากอากาศที่อบอุ่น สายลม แสงแดดและหาดทรายยาวเหยียด แถมยังเป็นที่ตั้งของบ้านพักของดาราฮอลลีวู้ดหลายต่อหลายคน หาดมาลิบู (Malibu)เป็นสถานที่แห่งแรกที่ฉันได้แวะไปเยี่ยมเยือน ที่นี่มีป้ายริมถนนบอกว่าเป็น “27 Miles of Scenic Beauty” และด้วยความโชคดีอย่างเหลือล้น ฉันได้มีโอกาสเข้าพักที่บ้านรับรองของดารารุ่นเก๋าของฮอลลีวู้ด นั่นคือบ้านของ Dick Martin (อดีตดาราตลกชื่อดัง เสียชีวิตไปแล้ว) และภรรยา Dolly Martin (อดีตสาวบันนี่นิตยสารเพลย์บอยรุ่นแรกๆ) ฉันจึงมีโอกาสได้เดินริมหาดมาลิบูบริเวณบ้านดาราอย่างใกล้ชิด แม้ว่าลมที่ชายหาดและน้ำในมหาสมุทรจะเย็นเกินไปสำหรับฉัน แต่ก็ไม่ได้ทำให้ฉันพลาดโอกาสที่จะได้เห็นแมวน้ำว่ายเล่นอยู่ในมหาสมุทร นกพีลีแกนสีน้ำตาล (Brown Pelican) และนกนางนวลหลายต่อหลายตัวบินข้ามหัว เมื่อหันหลังมองกลับมาทางฝั่ง เจ้าถิ่นก็ชี้ และอธิบายให้ฟังว่า แม้ว่าจะมีบ้านตั้งเรียงรายอยู่ แต่ก็มีกฏหมายคุมเข้มห้ามปลูกสิ่งก่อสร้าง… Read More Central California’s Coastline: มหัศจรรย์ธรรมชาติริมฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิค
York & Notts มหาวิหารและตำนานป่าเชอร์วู้ด
หลังจากตะลอนเที่ยวดินแดนทางตอนเหนือของเกาะบริเตน เขาขับรถพาฉันผ่านป้ายหินแสดงเขตแดนระหว่างสก็อตแลนด์และอังกฤษมา 2-3 ชั่วโมง ก่อนเลี้ยวรถออกจากทางหลวง A1(M) บ่ายหน้าเข้าสู่เมือง “ยอร์ก” ในมณฑลยอร์กไชร์ เมืองที่เต็มไปด้วยร่องรอยอารยธรรมยุคกลางตั้งแต่เมื่อ 7-800 ปีที่แล้ว เมืองที่ว่ากันว่าเป็นเมืองหลวงทางตอนเหนือของประเทศอังกฤษ…เขาหันมาบอกฉันว่า “เราจะเริ่มต้นในอังกฤษกันที่นี่” หลังจากหาที่จอดรถได้ เขาจูงมือฉันพาเดินข้ามสะพานข้ามแม่น้ำอูซที่ไหลผ่านเมือง มองเห็นทิวทัศน์สวยงาม มีชาวเมืองกำลังซ้อมกรรเชียงเรือลำยาว มีทั้งแบบฝีพายคู่และสามสี่ฝีพาย เป็นที่น่ารื่นรมย์ พวกเราพากันเดินขึ้นกำแพงเมืองที่สร้างมาตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 13 ซึ่งเมื่อทอดสายตาไล่ตามกำแพงจากจุดที่พวกเราเดินอยู่ไปเรื่อยๆ ฉันก็ได้เห็นศูนย์รวมจิตใจของชาวเมืองยอร์กแห่งนี้ตั้งเด่นเป็นสง่ามาแต่ไกล… เมื่อเดินเข้าไปใกล้ ฉันได้แต่แหงนหน้ามองดูศาสนสถานขนาดมหึมาที่เต็มไปด้วยรายละเอียดของรูปสลักต่างๆ แทบทุกแง่มุมของผนังด้านนอก ก่อนเขาจะพาฉันเดินเขาสู่ความอัศจรรย์ยิ่งกว่าที่อยู่ในตัวโบสถ์ด้านในของ ยอร์กมินสเตอร์ (York Minister) มหาวิหารโกธิคที่ใหญ่ที่สุดของอังกฤษและยุโรปตอนเหนือ ที่ใช้เวลาสร้างยาวนานกว่า 250 ปี (ค.ศ. 1220-1427) ส่วนที่สูงที่สุดคือส่วนกลางสูงถึง 60 เมตร และมีความยาวโดยรวมถึง 158 เมตร… เขาเดินไปเข้าแถวจ่ายค่าเข้าชมด้านใน (4.50 ปอนด์/คน) ในขณะที่ฉันยังแหงนคอตั้งบ่ากับภาพที่เห็นเบื้องหน้าจนเขาเดินมาสะกิด ก่อนยื่นแผ่นพับที่ได้มาให้ แล้วจูงมือฉันเข้าชมด้านใน เขากระซิบบอกอีกว่าวิหารนี้เป็นมีที่ประทับของอาร์คบิชอปแห่งยอร์ก ซึ่งเปรียบเหมือนตำแหน่งสังฆราชของอังกฤษ จะเป็นรองก็แต่อาร์คบิชอปแห่งแคนเทอเบอรี่ที่เป็นใหญ่ทั่วทั้งอังกฤษเท่านั้น ยังไม่ทันไร เขาก็มาลากฉันพาไปดูกระจกสี (สเตนกลาส)… Read More York & Notts มหาวิหารและตำนานป่าเชอร์วู้ด








